สัปดาห์ที่ผ่านมา ถ้ากดไลค์เพจที่เป็นสื่อบันเทิงของต่างประเทศทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น เอ็นเอ็มอี, คอลลิเดอร์, เดดไลน์ หรือ เดอะ ฮอลลีวูด รีพอร์เตอร์ ในค่ำคืนหนึ่งบนหน้านิวส์ฟีดเพซบุคของเราก็จะเจอกับโพสท์รัวๆ จากสำนักข่าวต่างๆ ที่ว่าด้วย การสะบัดผ้าคลุมสีแดงและชุดสีน้ำเงินของซูเปอร์แมนทิ้ง โดยเฮนรี คาวิลล์ นักแสดงที่มารับบทนี้ตั้งแต่ Man of Steel (2013), Batman V Superman: Dawn of Justice (2016) และ Justice League (2017) ที่ยังเป็นตัวละครหลักในจักรวาลภาพยนตร์ที่แผ่ขยายออกไปของดีซี คอมิคและวอร์เนอร์ บราเธอร์สอีกต่างหาก
ที่มาเริ่มต้นจากข่าวลือที่ว่า ทางดีซีและวอร์เนอร์อยากให้คาวิลล์ ไปปรากฏตัวในหนังซูเปอร์ฮีโรเรื่อง Shazam! ที่กำลังถ่ายทำกันอยู่ และมีกำหนดฉายในสหรัฐอเมริกาก็ 5 เมษายน 2019 แต่ปรากฏว่า ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไม่สำเร็จ เนื่องจากตารางการทำงานไม่ลงตัว เพราะคาวิลล์ต้องไปถ่ายซีรีส์เรื่อง The Witcher ให้กับเน็ทฟลิกซ์ ซึ่งบางแหล่งข่าวบอกว่าคาวิลล์รู้ก่อนหน้าแล้วว่า เขาจะต้องมาเล่น Shazam! ด้วย แต่ก็ยังไปรับซีรีส์เรื่องดังกล่าว จนการเจรจาต้องหยุดชะงัก และเมื่อรวมกับข่าวที่ว่า ทางดีซี-วอร์เนอร์ ต้องการปรับเปลี่ยนหลายๆ อย่างของหนังในจักรวาลของตัวเอง หลังมีแค่ Wonder Woman เมื่อปีที่แล้วเพียงเรื่องเดียว ที่ประสบความสำเร็จทั้งเงินและกล่อง “มีการจำแนกส่วนต่างๆ ของหนังเรื่องก่อนๆ ออกมาว่ามีอะไรบ้างที่ใช้ไม่ได้” แหล่งข่าววงในรายหนึ่งกล่าว ซึ่งหนึ่งในการปรับเปลี่ยนก็คือ โยกความสำคัญจากซูเปอร์แมนไปเป็นซูเปอร์เกิร์ล ที่จะทำเป็นหนังใหญ่ว่าด้วยจุดเริ่มต้นของเธออีกครั้ง ที่จะเป็นการนำบรรดาฮีโรหนุ่ม-สาวขึ้นจอ โดยเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมามีข่าวว่าวอร์เนอร์ได้จ้าง โอเร็น อูซีล มาเขียนบทหนังภาคต่อที่มีตัวละครนำเป็นผู้หญิง และหลายๆ ฝ่ายเดาเอาว่าน่าจะเป็น Supergirl
ถ้าดีซี-วอร์เนอร์เปลี่ยนมาโฟกัสที่หนัง Supergirl จริงๆ นั่นหมายความว่า จะเป็นการกันซูเปอร์แมนออกไปด้วย เพราะในเรื่องราวของซูเปอร์เกิร์ล ตัวซูเปอร์แมนหรือคลาร์ค เคนท์ยังเป็นเพียงทารกน้อยเท่านั้นเอง แถมดีซี-วอร์เนอร์ยังไม่มีแผนที่จะทำหนัง Superman นำเดี่ยวเลยอย่างน้อยก็ในตอนนี้ ยิ่งไปกว่านั้นแหล่งข่าวยังบอกว่า สตูดิโอมองตัวละครรายนี้ไม่ต่างไปจากเจมส์ บอนด์ ที่สามารถใช้นักแสดงใหม่ๆ มารับบทได้ตลอดเวลา “ซูเปอร์แมนก็เหมือนเจมส์ บอนด์ หลังจากสร้างกันมานาน คุณก็ต้องมองหานักแสดงคนใหม่” แหล่งข่าวกล่าว
แต่ปัญหาเฉพาะหน้าก็คือ ถ้าคาวิลล์โบกมือลาจริงๆ ในตอนนี้จะส่งผลกระทบชิ่งไปถึงหนังเรื่องอื่นๆ ของดีซี-วอร์เนอร์ ที่เชื่อมโยงต่อกันเป็นจักรวาลหรือไม่ ส่งผลให้มีข่าวลือในโลกไซเบอร์ต่อเนื่องตามมาว่า ดีซี-วอร์เนอร์จะยกเครื่องตัวละครรายนี้ใหม่ โดยให้ไมเคิล บี. จอร์แดน มารับบท ถ้าเป็นจริงเขาจะกลายเป็นซูเปอร์แมนผิวดำคนแรก ที่ตลกก็คือ บางสำนักข่าวถึงกับบอกว่าสตูดิโอจะวางตัวซูเปอร์แมนของคาวิลล์ ในแบบเดียวกับที่ทางมาร์เวลใช้งานนิค ฟิวรี ที่เล่นโดยแซมวล แอล. แจ็คสัน ในหนังจักรวาลของตัวเอง
จริงๆ แล้วดีซีไม่ได้มีแค่เรื่องคาวิลล์จะชิ่งบทซูเปอร์แมน แต่ยังมีเรื่องที่เบน อัฟเฟล็คจะอำลาบทมนุษย์ค้างคาวอีกเรื่อง ที่เป็นประเด็นมาก่อนหน้า และมาถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะไม่เป็นจริง แต่อย่างน้อยดีซี-วอร์เนอร์ ก็ยังพอมีเวลาหายใจหายคอ เพราะจากรายชื่อของหนังในลิสท์ที่จะออกฉายนั้น นอกจากหนัง Aquaman นำเดี่ยวในเดือนธันวาคมนี้แล้ว ปีหน้าก็เป็นเวลาของ Shazam! แล้วก็ตามด้วย Wonder Woman 1984 ที่ทำให้มีหนังของดีซีวางโปรแกรมฉายไปถึงปี 2019 โดยที่อย่าลืมว่าหนัง The Flash ก็จะเริ่มถ่ายทำกันต้นปีหน้าอีกเรื่อง
หากทั้งหมดทั้งมวล ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องทิศทางของหนังในจักรวาลของดีซี, ปัญหาของเบน อัฟเฟล็ค, ปัญหาของเฮนรี คาวิลล์ ล้วนแสดงให้เห็นถึงปัญหาในภาพรวมหนึ่งของดีซี-วอร์เนอร์อย่างหนึ่ง นั่นก็คือ การจัดการกับข่าวลือหรือข่าวที่เล็ดลอดออกไป ดูเงื้อง่าราคาแพงและช้าเกินกาลเหลือเกิน ซึ่งที่ผ่านมาๆ ปัญหาก่อนๆ หน้าก็ยังไม่ได้มีการยืนยันอะไรจากทางสตูดิโอแม้แต่น้อย แต่ก็ยังดีที่ในกรณีของคาวิลล์ ดีซี-วอร์เนอร์ยังไม่ปล่อยให้เนิ่นนานไปกว่านี้
โฆษกของวอร์เนอร์เผยกับทางวาไรตีว่า “ขณะนี้ยังไม่มีการตัดสินใจใดๆ ถึงหนัง Superman เรื่องต่อไป เรามีความเคารพและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเฮนรี คาวิลล์ มาโดยตลอด และยังคงไม่มีความเปลี่ยนแปลง”
นอกจากนี้ดานี การ์เซีย ผู้อำนวยการสร้างของ Shazam! และผู้จัดการของคาวิลล์ ก็ทวีตข้อความถึงสถานการณ์ล่าสุดของคาวิลล์ด้วยเช่นกัน “ใจเย็นๆ ผ้าคลุมยังอยู่ในตู้เสื้อผ้า วอร์เนอร์ยังเป็นพาร์ทเนอร์ และสานต่อการทำงานกับเรา ในขณะเดียวกันก็พัฒนาจักรวาลของดีซีต่อไป”
ส่วนตัวคาวิลล์เองก็โพสท์อินสตาแกรมที่ดูกำกวม ว่า “เฮนรี คาวิลล์วันนี้ กำลังตื่นเต้น” แล้วใส่แฮชแท็ก #Superman ซึ่งสามารถตีความกันได้หลากหลาย
ทั้งหมดทั้งมวลที่ทั้งทางดีซี-วอร์เนอร์, ผู้จัดการของคาวิลล์ และเจ้าตัวเองแสดงออกมา แม้จะไม่ใช่การตอบปฏิเสธหรือยอมรับ แต่อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่า คาวิลล์ยังไม่โบกมือลาบทซูเปอร์ฮีโรที่เขารับเล่นมาตั้งแต่ปี 2013 ด้วยความตื่นเต้น “ผมไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องน่ากลัวอย่างที่ใครๆ ว่ากันนะ (สำหรับการรับบทซูเปอร์แมน)” เขากล่าวในตอนนั้น “โดยเฉพาะถ้าผมคิดถึงเรื่องนี้อย่างจริงจัง และมุ่งมั่น มองความกดดันให้เป็นเรื่องการทำงานเพื่อสร้างความยุติธรรมให้กับตัวละครตัวนี้”
รวมไปถึงสามารถดับไฟข่าวลือที่โหมกระหน่ำให้ซาลงไปได้อีกพักใหญ่ หรืออย่างน้อยก็ทำให้คลื่นลมสงบเพื่อรอพายุใหญ่ที่จะมาถึงไปได้อีกระยะ โดยแฟนๆ และคอหนังอย่างเราๆ ก็คงต้องจับตามองกันต่อไป ในแบบที่อย่าเพิ่งไปตื่นตูมกับสารพัดข่าวลือ เพราะหลายๆ ครั้ง มันแสดงให้เห็นว่าเป็นเพียงส่วนเสี้ยวของความจริงเท่านั้น แล้วจากประสบการณ์ที่เคยเจอมา มักไม่ได้มาจากคนที่นั่งเจรจากันอยู่ในห้อง แต่เป็นเรื่องของคนช่างมโนที่นิยมการจับแพะชนแกะปลายแถว ที่พอเป็นเรื่องในแวดวงบันเทิง เราก็มองเป็นเรื่องสนุกสนานกันไป ดูว่าฝ่ายต่างๆ รับมือกันแบบไหนก็สนุกดี
แล้วค่อยดูกันชัดๆ ตอนฝุ่นซึ่งเคยตลบซาลงไปกันอีกที
โดย นพปฎล พลศิลป์ เรื่อง ข่าวลือถึงเรื่องวุ่นๆ ในโลกหนังซูเปอร์ฮีโรของดีซี คอลัมน์ หรรษา วันจันทร์ – HAPPY MONDAY หนังสือพิมพ์ไทยโพสท์วันที่ 17 กันยายน 2561
ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่