ทันทีที่แพร่กระจายเข้าไปในโลกตะวันตก โคโรนาไวรัสที่กลายเป็นโรคระบาดจากคำประกาศของฮูว์ (WHO) ไปแล้วเรียบร้อย ไม่ได้ส่งผลกระทบแค่กับบรรดาผู้ป่วยเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อกระบวนการต่างๆ ทางสังคม ที่เกี่ยวข้องกับผู้คนที่ไม่ได้เจ็บป่วยและสามารถใช้ชีวิตตามปกติ ทั้งในวันนี้และวันหน้า
กับวงการบันเทิง ที่น่าจะเป็นที่พึ่งให้กับผู้คนที่อยู่ในสภาพหวาดวิตกกับโรคที่แพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น และนับตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา หากเกาะติดเฟซบุคเพจหรือเว็บไซท์ของสื่อบันเทิงดังๆ ทั้งหลาย ก็ย่อมได้เห็นประกาศเลื่อนการฉายภาพยนตร์, เลื่อนการจัดงานต่างๆ หรือกระทั่งยกเลิกงานอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงข่าวคราวของคนดังที่กลายเป็นเหยื่อของเจ้าไวรัสตัวนี้
ท่ามกลางกระแสข่าวร้ายที่เกิดขึ้นแทบทุกวัน เดอะ ฮอลลีวูด รีพอร์เทอร์ รายงานว่า ฮอลลีวูดน่าจะมีความเสียหายที่เกี่ยวข้องกับโคโรนาไวรัส ในระดับมูลค่าสองหมื่นล้านเหรียญสำหรับกลุ่มของภาพยนตร์ฉายโรงและโทรทัศน์ เมื่อพิจารณากันจากความเสียหายที่น้อยที่สุดซึ่ง No Time to Die ได้รับ ซึ่งประเมินว่าน่าจะอยู่ที่ราวๆ 30 – 50 ล้านเหรียญ เนื่องจากการเลื่อนฉายจากกำหนดเดิมในเดือนเมษายนไปเป็นพฤศจิกายน รวมถึงการที่รายได้ในบ็อกซ์ ออฟฟิศของปีนี้ น่าจะต่ำสุดๆ ในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในรอบกว่าสองทศวรรษ แม้จะเป็นตัวเลขที่สูงมากๆ แต่ 2 หมื่นล้านเหรียญก็เป็นตัวเลขที่สมเหตุสมผล
กำหนดฉายที่ถูกเลื่อนออกไปของหนังใหญ่ๆ อย่าง Mulan, A Quiet Place Part II, Fast 9 และ The New Mutants จำต้องยินยอมรับผลกระทบที่เกิดขึ้นตามมา โดยเฉพาะในเรื่องของรายได้บนบ็อกซ์ ออฟฟิศ และการทำงานทางการตลาด ซึ่งการโปรโมทผ่านสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นออนไลน์, สิ่งพิมพ์, โทรทัศน์ และอีกมากมาย ที่ตกลงและวางแผนกันเอาไว้ล่วงหน้าเป็นเดือนๆ เรียบร้อยแล้ว จะต้องสูญเงินก้อนใหญ่เมื่อมีการปรับแผนกันใหม่
ส่วนการถ่ายทำที่ต้องล่าช้าออกไปอีกของหนังที่กำลังจะออกฉายรวมไปถึงรายการโทรทัศน์ต่างๆ อย่าง Shang-Chi และ the Legend of the Ten Rings, Jurassic World: Dominion แล้วก็ Stranger Things 4 ล้วนส่งผลให้ต้องมีการเทเงินจำนวนมากขึ้นไปอีกเพื่อรองรับความล่าช้าที่เกิดขึ้น แหล่งข่าวรายหนึ่งบอกกับเดอะ ฮอลลีวูด รีพอร์เทอร์ว่า ความล่าช้าที่เกิดขึ้นกับกองถ่ายของ Shang-Chi น่าจะทำให้สูญเงินราวๆ 300,000 – 350,000 เหรียญต่อวัน ขึ้นอยู่กับว่าความล่าช้าที่เกิดขึ้นจะยาวนานแค่ไหน ซึ่งนี่เป็นตัวเลขเฉพาะความเสียหายในส่วนของการถ่ายทำเท่านั้น ความล่าช้าที่เกิดขึ้นยังส่งผลกระทบต่อกำหนดฉาย ที่ต้องมีหนังอีกหลายๆ เรื่องเลื่อนกำหนดออกไปจากเดิมอีก แล้วคงไม่มีน้อยเลยที่ต้องไปอยู่ในพื้นที่หรือช่วงเวลาที่ไม่ปกติ แต่ก็มีหนึ่งพื้นที่สำคัญที่การประเมินค่าความสูญเสียยุ่งยากไม่น้อยก็คือ โทรทัศน์ ซึ่งการจัดการกับตัวเลขต่างๆ เป็นเรื่องยาก หากก็พอจะบอกได้ว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะโดนกันเต็มๆ แน่ๆ
เดอะ ฮอลลีวูด รีพอร์เทอร์รายงานว่า รายได้ในบ็อกซ์ ออฟฟิศทั่วโลกเจอผลกระทบไปแล้วเรียบร้อยถึง 7 พันล้านเหรียญ และน่าจะขยับไปถึงหมื่นล้านเหรียญได้ หากการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับโรงภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็นการปิดหรือเลื่อนฉายดำเนินไปถึงเดือนพฤษภาคม ส่วนหนังที่รายได้ขึ้นอยู่กับบ็อกซ์ ออฟฟิศนอกสหรัฐอเมริกา อย่าง Mulan และ Fast 9 ซึ่งมีกลุ่มแฟนๆ ในตลาดอินเตอร์กลุ่มใหญ่ หรือไม่ก็มีประวัติการทำรายได้ที่ดีในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะจีน โคโรนาไวรัสจะทำให้เกิดผลกระทบที่หนักหน่วง
นอกจากนี้ยังมีค่าเสียหายในส่วนของกำลังคน สำหรับความล่าช้าที่เกิดขึ้นในการถ่ายทำ หรือการแสดงสำหรับละครเวที ที่จะต้องจ่ายให้กับสหภาพของนักแสดงหรือพนักงานที่ทำงานในส่วนต่างๆ เช่น สมาพันธ์ลูกจ้างละครเวทีแห่งชาติ (IATSE – International Alliance of Theatrical Stage Employees) ซึ่งจะต้องรับมือกับเรื่องนี้ตรงๆ ทันทีที่ละครเวทีแถบบรอดเวย์ต้องหยุดแสดง ด้วยการให้คำแนะนำให้กับสมาชิกที่รายได้ต้องสูญเสียไปว่าจะต้องทำยังไงบ้าง และไม่ใช่แค่นี้ ผลกระทบที่เกิดขึ้นยังรวมไปถึงเรื่องของค่ารักษาพยาบาล ตลอดจนสิ่งที่เป็นเรื่องระยะยาวอย่างรายได้หลังเกษียณ ซึ่งประธานของสมาพันธ์ลูกจ้างละครเวทีแห่งชาติเผยว่า
“ตอนนี้สมาชิกเป็นพันๆ คนของเราในทุกส่วนของการทำงานในอุตสาหกรรมบันเทิง ต้องเผชิญกับความยากลำบากทางการเงิน เพราะคำสั่งยกเลิกของรัฐบาล บรรดาผู้คนที่ทำงานในวงการบันเทิงไม่ควรได้รับผลกระทบจากการต่อสู้กับไวรัส โควิด – 19 แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นแค่พวกเรา การศึกษาแสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมบันเทิงใช้จ่ายเงินให้กับชุมชนต่างๆ ทั่วทั้งประเทศมูลค่ามหาศาล แค่ธุรกิจภาพยนตร์และโทรทัศน์ก็สามารถอัดฉีดเงินเข้าไปในธุรกิจท้องถิ่นทั่วประเทศราวๆ 4 หมื่นเก้าพันล้านเหรียญต่อปี นอกจากนี้อุตสาหกรรมบันเทิงโดยรวม ยังสร้างงานถึงกว่า 2.1 งาน ในระบบเศรษฐกิจของทั้งระดับเทศบาลและระดับรัฐ”
เพราะฉะนั้นความชะงักงันของอุตสาหกรรมบันเทิงย่อมส่งผลต่อธุรกิจท้องถิ่นต่างๆ อย่างเลี่ยงไม่ได้
ที่น่ากลัวก็คือ นี่อาจจะเป็นเพียงจุดเริ่มต้น ที่คงต้องมาดูกันต่อว่า ผลกระทบจริงๆ ที่เกิดขึ้นของโคโรนาไวรัสต่อฮอลลีวูดนั้น มากมายมหาศาลขนาดไหน? และเป็นยังไงบ้าง? แต่การประมาณการทางการเงินที่เกิดขึ้นนี้ น่าจะเป็นสัญญาณแสดงให้เห็นถึงผลกระทบที่มาเป็นระลอก ซึ่งอาจเกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมบันเทิงในระยะยาวได้ในระดับหนึ่ง
โดยอย่าลืมว่าวิกฤตสุขภาพที่เกิดขึ้นไปทั่วโลก แล้วส่งผลกระทบต่อธุรกิจบันเทิงในหลากหลายมิติ มีที่มาจากการรวมตัวกันของผู้คน ไม่ว่าจะเป็นการเข้าชมภาพยนตร์หรือโรงละครของคนทั่วไป, ผู้คนที่ทำงานในกองถ่ายหรือการแสดงด้วยกัน หรือการไปร่วมงานใหญ่ๆ เช่น การเปิดตัวภาพยนตร์ หรือว่างานเทศกาลภาพยนตร์ที่มีคนเป็นร้อยๆ พันมาอยู่ในสถานที่เดียวกัน
ที่หากสถานการณ์ลากยาวไปเรื่อยๆ ตัวเลขสองหมื่นล้านเหรียญก็อาจจะเป็นมูลค่าความเสียหายที่ไม่มากเลย และเมื่อฝุ่นตลบ ทุกอย่างจบลงแล้ว เราคงต้องมาสรุปกันอีกที
(หมายเหตุ: หลังจากปิดต้นฉบับ ยังมีข่าวหนังเลื่อนฉาย, เลื่อนการถ่ายทำ และเปลี่ยนรูปแบบการออกฉายตามมาอีกเรื่อยๆ)
โดย นพปฎล พลศิลป์ เผยแพร่ครั้งแรก คอลัมน์ หรรษา วันจันทร์ – HAPPY MONDAY หนังสือพิมพ์ไทยโพสท์ วันที่ 16 มีนาคม 2563
[one_half][/one_half][one_half_last][/one_half_last]