DAWN OF THE PLANET OF THE APES: จาก Rise of the Planet of the Apes ที่กลายเป็นหนังฮิตแบบเซอร์ไพรส์ หนังภาคต่อ ที่เป็นภาคก่อนของหนังอมตะแห่งวงการภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่ง ตกมาถึงมือของแม็ทท์ รีฟส์ ผู้กำกับอาภัพ เจ้าของงานดีๆ อย่าง Cloverfield และ Let Me In ที่สานต่อเรื่องราวจากหนังภาคก่อนได้อย่างยอดเยี่ยม
เรื่องราวที่สอดรับ ปมประเด็นต่างๆ จากเหตุหนึ่งไปสู่เหตุหนึ่ง ทั้งสมจริงกับเหตุการณ์ และสมเหตุสมผล ไม่ว่าจะเป็นการเกลียดชังวานรของมนุษย์บางคน ความรังเกียจผู้คนของวานรบางตัว หรือการที่มนุษย์ต้องล่วงล้ำเข้าไปในดินแดนของวานร การเล่าเรื่องเข้มข้น หนักแน่น จริงจัง ลุ้นระทึก กดดัน โดยที่ไม่ต้องมีฉากแอ็คชัน แล้วสถานการณ์ในหนัง ก็ไม่ต่างไปจากการจำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในโลก ในบางประเทศ ที่เต็มไปด้วยความแตกร้าว ซึ่งยากจะสมานฉันท์กันได้อย่างสนิทใจ เมื่อต่างฝ่ายต่างก็มี “คน” ที่ไม่เชื่อใจ ไม่ไว้ใจ และหวาดกลัวฝ่ายตรงข้ามอยู่ข้างในเหมือนกัน รวมไปถึงความรู้สึกดูถูกเหยียดหยามกันและกัน ว่าเป็นเผ่าพันธุ์ต่ำชั้นกว่าตัวเอง และเมื่อเจอกับความทะเยอทะยานอยากจะยิ่งใหญ่ ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ใครบางคนจะทรยศเผ่าพันธุ์ของตัว ฉวยโอกาส สร้างเรื่อง ยิงพวกเดียวกัน เผาถิ่นฐานที่อยู่ เพื่อที่จะสร้างแรงปะทุบางอย่างให้เกิดขึ้น ซึ่งเป็นการตอกย้ำรอยร้าวที่คนพยายามสมานให้แยกแตกไปตลอดกาล
หนังเต็มไปด้วยความหม่นมืด และแทบดูไม่มีความหวังสำหรับตัวละครมนุษย์ ซึ่งท้ายที่สุดก็เป็นผู้อาศัยในโลกใบนี้ในที่สุด ขณะที่งานด้านเทคนิคก็อยู่ในระดับสุดยอด
แม้จะดูเคร่งเครียด บีบความรู้สึก กดดันกว่าภาคก่อน แต่นับมาถึงตอนนี้ นี่คือ หนังซัมเมอร์จำพวก บล็อคบัสเตอร์ ที่ดีที่สุด แบบไม่มีข้อสงสัย!!!!
โดย นพปฎล พลศิลป์