![](https://www.sadaos.com/wp-content/uploads/2014/08/into-the-storm-com.jpg)
INTO THE STORM: ปัญหาของหนังในแบบเจอฟิล์ม หรือ Found Footage ที่พยายามทำให้รู้สึกว่าภาพในหนังเป็นภาพจากเหตุการณ์จริง ก็คือความไม่สมจริงในการถ่ายทำเพื่อให้ได้ภาพเหล่านั้นมา ที่มักจะเห็นตัวละครถือกล้องแบบไม่สนว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นตรงหน้า
กับ Into the Storm ที่เป็นงานลูกผสมระหว่างการเป็นหนังในแบบที่คุ้นๆ กันดี กับการใช้ภาพจากกล้องของตัวละคร และภาพข่าวในเรื่อง ก็ออกมาลักลั่น ดูไม่จริงสำหรับการเป็นหนังเจอฟิล์ม และขาดความลึก หากเป็นหนังที่เล่าเรื่องตามปกติ แต่ก็ทำให้การเล่าเรื่องไปได้ไกลกว่าที่เคย ไม่ติดอยู่กับกรอบของภาพจากกล้องของตัวละคร โดยมีเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัวของอาจารย์โรงเรียนท้องถิ่นกับลูกชาย ขนานไปกับการปฏิบัติงานของทีมนักล่าพายุ ซึ่งก็มีทั้งทีมจริงจัง และพวกทีมสมัครเล่น ที่ทำให้หนังเสียจังหวะในการเล่าเรื่อง ดูผิดที่ผิดทาง และยิ่งดู “หลอก” มากขึ้นไปอีก
ไม่แปลกที่หนังจะไปได้ไม่ถึงไหน เนื่องจากมีเวลาให้เรื่องราวแต่ละส่วนน้อยเกินไป ทั้งความเป็นมาและเป็นไป จนคนดูไม่รู้สึกผูกพันหรืออินไปกับเรื่อง และตัวละคร นอกจากได้ชมฉากพายุมากมายหลายไซส์ ถล่มเมืองจนราบเป็นหน้ากลอง ซึ่งด้วยเทคนิคพิเศษที่ก้าวหน้า ภาพเหล่านี้ก็ดูตื่นตา สมจริงกว่าที่เคยเห็นใน Twister แต่กับความสมเหตุสมผล กับความเข้มข้นของเรื่องราวนั้น มันเชียงใหม่กับสุไหงโกลกเลยทีเดียว
ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรเช่นกัน ที่ดูแล้วจะไม่ตื่นเต้น ระทึกขวัญสักเท่าไหร่ เพราะหนังไม่ได้มีเลือดเนื้อ และวิญญาณ รวมไปถึงหัวใจอยู่ในตัวนั่นเอง
โดย นพปฎล พลศิลป์