JUMANJI: THE NEXT LEVEL: เมื่อรีบูทออกมาเป็น Jumanji: Welcome to the Jungle แล้วประสบความสำเร็จสวยๆ อย่างน้อยก็เรื่องรายได้ก้อนโต ส่วนคำวิจารณ์ก็อยู่ในระดับไม่เสียหาย งานที่ตั้งใจจะให้เป็นหนังเฟรนไชส์อยู่แล้ว ก็มีภาคต่อออกมาสมใจอยาก
โดยตัวละครหลักๆ ในโลกจริงยังคงเป็น สเปนเซอร์, ฟริดจ์, มาร์ธา และเบธานี เหมือนเดิม และเพิ่มเติมด้วยสองรุ่นใหญ่ แดนนี เดอ วีโต กับแดนนี โกลเวอร์ ที่รายแรกรับบทเป็นเอ็ดดี-ตาของสเปนเซอร์ ส่วนรายหลังคือ ไมโล เพื่อนผู้ห่างเหินของเอ็ดดี
เหตุการณ์ในหนังเกิดขึ้นสามปีหลังจากหนังภาคแรก ตัวละครหลักทั้งสี่คน ต่างมีชีวิตของใครของมันแตกต่างกันไป แต่ก็สัญญาว่าจะกลับมาเจอกันทุกปี มีแต่สเปนเซอร์ที่รู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอที่จะคบกับมาร์ธา จนพยายามเลี่ยงการรวมรุ่นครั้งล่าสุด ก่อนที่จะพบว่า ในโลกของจูแมนจีต่างหาก ที่เขารู้สึกว่าตัวเองมีค่า และทำให้เขาเลือกที่จะกลับเข้าไปในเกมอีกครั้ง
คงน่าจะเดากันได้ว่า บรรดาเพื่อนๆ ก็ต้องมาเล่นเกมจูแมนจีอีกหน เพื่อหาทางช่วยสเปนเซอร์ แต่ที่ต่างไปจากเดิมก็คือ มีแค่ฟริดจ์กับมาร์ธาเท่านั้นที่ถูกดูดเข้าไป ส่วนเบธานีถูกทิ้งให้อยู่ข้างนอก แล้วที่เพิ่มเติมเข้ามาก็คือ ตาของสเปนเซอร์กับเพื่อนคู่กัดที่โดนลากเข้าไปในเกมกับเขาด้วย
แล้วที่ทำให้หนังแตกต่างไปจากเดิมก็คือ ครั้งนี้พวกเด็กๆ ไม่ได้เป็นตัวอวาตารหน้าเดิมจากภาคที่แล้ว มีสลับร่างกันให้วุ่น และแน่นอนก็ต้องมีอวาตารรายใหม่เข้ามา เป็นขโมยสาวชื่อหมิง (อวอควาฟินาเล่น ทำให้ช่วงนี้มีหนังเธอฉายชนกันสองเรื่อง แถมบทแตกต่างกันอย่างฟ้ากับเหว) ส่วนตัวอวาตารหน้าเก่านอกจากจะเปลี่ยนเจ้าของ ที่ทำให้ต้องเรียนรู้ความสามารถกันใหม่ คุณสมบัติของแต่ละรายก็มีเปลี่ยนไป
ตัวเกมซึ่งพวกเขาต้องเล่นก็เป็นเกมใหม่ มีตัวร้ายคนใหม่ และเนื้อหาใหม่ เช่นกัน
ถือเป็นลูกเล่นที่ทำให้หนังมีบรรยากาศที่ต่างไปจากเดิม เมื่อพื้นที่ในการผจญภัย รวมไปถึงเนื้อหามาใหม่ ตัวละครก็ต้องเรียนรู้ความสามารถใหม่ๆ ของตัวเอง ซึ่งก็ถือว่าเป็นมุมที่ดีของหนัง ในแง่การสร้างความหรรษาให้ผู้ชม โดยยังคงเน้นความบันเทิงแบบง่ายๆ สไตล์หนังการ์ตูน ที่ทำให้กลายเป็นรื่นรมย์สำหรับครอบครัวไปพร้อมๆ กัน แม้เรื่องของความตื่นเต้น หรือความว้าวของเทคนิคพิเศษจะอยู่แค่ในระดับมาตรฐานเท่านั้น หากก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาสำคัญอะไร
แล้วบรรดาตัวละครหลักๆ ที่ตอนแรกเหมือนจะมากันไม่ครบ หากท้ายที่สุดก็กลับมาพร้อมหน้า พร้อมตา ส่วนการสวมร่างอวาตาร ที่หลังจากเล่นมุขผิดฝาผิดตัวอย่างหนำใจ หนังก็กลับมาให้แต่ละคนแต่ละรายได้ตัวอวตารเดิมๆ ของตัวเองกลับคืน เพื่อดึงความคุ้นเคยเดิมๆ กลับมาให้ผู้ชมในช่วงท้ายๆ ของเรื่อง
ถึงจะเน้นขายความบันเทิง แต่โดยรายละเอียดของตัวละคร หนังก็มาพร้อมกับพัฒนาการ มีปมที่โตขึ้น สมการเป็นทั้งงานภาคต่อและการที่เรื่องราวทิ้งห่างจากหนังภาคก่อน 3 ปี
แม้ไม่ได้ทำให้หนังแข็งแรงมากมาย แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้ Jumanji: The Next Level รอดพ้นจากการเป็นหนังภาคต่อที่ทำออกมาแบบง่ายๆ ขายของเก่าล้วนๆ โดยที่ไม่มีอะไรเพิ่มเติม
โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ ชำแหละแผ่นฟิลม์ นิตยสารเอนเตอร์เทน ฉบับที่ 1295 ปักษ์แรกมกราคม 2563
[one_half][/one_half][one_half_last]xxxx[/one_half_last]