By Sadaos
“ชื่อ ของเธอ ‘ไนแอด’ ในภาษากรีก แปลว่า ‘นางพรายน้ำ’” คำแนะนำแรกที่หนังใช้แนะนำตัวละครหลักของเรื่อง ที่เป็นเจ้าของชื่อหนังในคราวเดียวกัน
แล้วก็ตามด้วยการใช้เวลาสั้น ๆ ราว 3 นาที เผยรายละเอียดตัวเธอให้ผู้ชมได้รับรู้มากกว่าเดิม ไดอะนา ไนแอด ไม่ใช่นางพรายน้ำ หากเป็นมนุษย์ธรรมดา ๆ คนหนึ่ง แต่ก็เป็นเจ้าของความสามารถที่ต้องตรงกับชื่อ เพราะเธอคือนักว่ายน้ำมาราธอนระดับแชมป์โลกที่พกสถิติมากมายไว้กับตัว อาทิ การว่ายน้ำจากคาปรีไปในเนเปิลส์ ในอิตาลี การว่ายข้ามทะเลสาบออนแทริโอ ที่มีความยาวถึง 51 กิโลเมตร การว่ายน้ำรอบเกาะแมนฮัตทัน พร้อมทำลายสถิติว่ายน้ำระยะทาง 45 กิโลเมตร รวมถึงการว่ายน้ำทางไกลจากบาฮามาสไปฟลอริดา ซึ่งกินระยะทางถึง 143 กิโลเมตร ในเวลาเพียง 27 ชั่วโมง 38 นาที ที่กลายเป็นสถิติใหม่ของการว่ายน้ำในมหาสมุทร
ก่อนจะปิดด้วยการเผยถึงความฝันที่เป็นที่สุดของเธอ ที่ทำให้ระยะทาง 143 กิโลเมตรจากบาฮามาสถึงฟลอริดา เป็นแค่อาหารเรียกน้ำย่อย โดยหากทำสำเร็จ ไนแอดจะมีของหวานเป็นการเกษียณตัวเองปิดท้าย ซึ่งความฝันที่ว่า ที่เธอนิยามว่าเป็นอาหารจานหลักก็คือ การว่ายน้ำข้ามมหาสมุทรที่กินระยะทางถึง 165 กิโลเมตร ในเวลา 60 ชั่วโมงจากคิวบามาฟลอริดา
ภาพที่ปรากฏบนจอของช่วงเวลาเหล่านี้ ล้วนเป็นคลิปจากสถานการณ์จริงในชีวิตของไดอะนา ไนแอด ที่จบลงตรงการไปออกรายการ ‘The Tonight Show’ ของเธอเมื่อปี 1979 ด้วยบุคลิกที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ กล้าพูด กล้าแสดงออก และมีอารมณ์ขัน
หลังจากนั้น หนังโดดมาสู่ปี 2010 วันที่ไนแอดไม่ใช่ผู้หญิงวัยยี่สิบปลาย-สามสิบต้น หากเป็นหญิงสูงวัยที่เลขอายุวนมาถึง 5 รอบ ที่ได้แอนเน็ตต์ เบนนิงมารับบท ไนแอดวันนี้ยังมีความทรงจำถึงคิวบา แต่เหมือนปล่อยวางความฝันครั้งปี 1979 ไปแล้ว ท่ามกลางชีวิตที่ไม่มีสีสัน หรือความน่าตื่นเต้นอะไร จนกระทั่ง…
หนังสือเล่มหนึ่งจากกล่องเก็บของของแม่ ที่ตั้งคำถามถึงการทำบางอย่างกับชีวิตที่เป็น “ครั้งหนึ่ง” ในชีวิต กระตุ้นให้ไนแอดนึกถึงสิ่งที่เธอทำหายไป ความพยายามที่เธอทำไม่สำเร็จเมื่อ 30 ปีก่อน จนกลับมาเป็นความตื่นเต้น ความท้าทายเพื่อความเป็นเลิศของเธออีกครั้งในวันนี้
เรื่องราวต่อจากนี้ก็คือ การกลับมาอยู่ในเส้นทางที่ไนแอดคุ้นชินและเคยเดิน (ว่าย) อีกหน ด้วยวัย และสภาพร่างกาย ทั้งของเธอและโค้ชคู่ใจ – บอนนี สตอลล์ แตกต่างและโรยราจากที่เคยเป็น ไม่ว่าจะเป็น การฝึกซ้อม การวางแผน เพื่อเอาชนะอุปสรรคนานา ทั้งจากร่างกายของตัวเธอ และจากธรรมชาติ ตัดสลับกับเรื่องราวในวัยเด็ก ซึ่งผ่านการฝึกฝนมาตั้งแต่เยาว์วัย เพื่อเป็นนักว่ายน้ำที่เก่งที่สุดจากแรงผลักดันของพ่อ ตลอดจนความสัมพันธ์ในครอบครัว และด้านมืดในชีวิตหรือกีฬาว่ายน้ำที่เธอเผชิญ ที่กลายมาเป็นคำตอบว่า ใครหรืออะไรที่หล่อหลอมให้เธอเป็นอย่างที่เป็นในวันนี้
รวมถึงทำให้ผู้ชมได้รู้จักตัวตนของไนแอด คนรอบข้าง และความสัมพันธ์ของเธอกับพวกเขา ทั้งจากอดีตและปัจจุบัน โดยเฉพาะผู้คนที่เธอเฟ้นหามาเพื่อทำภารกิจ ที่เป็น “ครั้งหนึ่ง” ในชีวิตครั้งนี้ ซึ่งแต่ละคนแม้ยินดีมาร่วมงาน หากลึก ๆ แล้วก็ไม่มั่นใจในสิ่งที่ไนแอดกำลังทำเท่ากับที่เจ้าตัวรู้สึก ก่อนที่ความมุ่งมั่นของไนแอดจะทำให้พวกเขาเปลี่ยนความคิด จนการว่ายน้ำจากคิวบามาถึงฟลอริดาของเธอ ไม่ใช่สิ่งที่เธอฝันเพียงลำพังอีกต่อไป แต่เป็นความฝันโดยไม่รู้ตัวของทุกคนที่เรียกได้ว่าเป็นลมใต้ปีกของไนแอด หรือเป็นกระแสน้ำที่พยุงตัวเธอเอาไว้ ที่ยังแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญของมนุษย์ เจ้าของความฝันเต็มที่เต็มไปด้วยลมหายใจและจิตวิญญาณ ที่พอเอาหัวจิตหัวใจมารวมกันก็สามารถรับมือความลำบากหนักหนา ความยากสาหัสได้
หนังของเอลิซาเบ็ธ ชัย วาซาน์เฮลยีกับจิมมี ชิน สองผู้กำกับที่จับงานหนังใหญ่เรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ไม่ใช่แค่เล่าเรื่องของ “คน” ที่ต่อสู้กับสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่ามาก ในวันที่ทุกอย่างเรียกได้ว่าเป็นการทำ “เกินตัว” แต่ยังโดดเด่นด้วยความสามารถของ “คน” ที่ถูกเลือกมาเป็นผู้คนที่มีตัวตนอยู่จริงในเหตุการณ์ ตั้งแต่ศูนย์กลางของหนัง การทำงานของแอนเน็ตต์ เบนนิง ที่แม้ไม่รู้ว่าตัวตนในปัจจุบันของไดอะนา ไนแอดเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่เบนนิงมอบให้ ก็ทำให้เชื่อว่า ไม่น่าจะแตกต่างไปมากนัก ไนแอดในหนังยังล้นไปด้วยความมั่นใจในตัวเอง กล้าพูด กล้าคิด วางตัวเองเป็นคนสำคัญ ไม่ผิดจากไนแอดที่เห็นในคลิปของรายการ หรือเหตุการณ์จริง ๆ ที่ตัดแทรกเข้ามา
แล้วอย่าลืมว่า หนังก็กล้า ๆ ตัดภาพของเบนนิงมารับไม้ต่อจากคลิปการปรากฏตัวของไนแอดในรายการ ‘The Tonight Show’ แบบต่อไฟตรง
โจดี ฟอสเตอร์ ที่เป็น บอนนี สตอลล์ โค้ชคู่ใจของไนแอด ก็ทำได้เยี่ยม เล่นรับ-ส่งกับเบนนิงได้ลงตัว เป็นธรรมชาติ การกอดคอกันเข้าชิงออสการ์นำหญิงกับสมทบหญิงของทั้งคู่ แม้จะไม่ได้อยู่ในสถานะตัวเต็ง แต่ไม่ว่าใครจะได้รางวัลในสองสาขานี้ สองสาวสว. คือคนที่ควรค่ากับการเป็นผู้เข้าชิงยอดเยี่ยม อย่างไม่ต้องสงสัย
รีส์ ไอแฟนส์ ในบทต้นหนคนเก่ง เป็นอีกหนที่แสดงให้เห็นว่า ตัวเองคือยอดฝีมืออีกรายจากเกาะอังกฤษที่มักถูกมองข้าม นับตั้งแต่สร้างชื่อจากบทเพื่อนคู่หูของฮิวจ์ แกรนต์ใน Notting Hill เมื่อมีงานดี ๆ มีบทดี ๆ มาถึงมือ ไอแฟนส์ก็ปิดจ๊อบได้สวย ๆ แบบนี้
ยิ่งเรื่องราวของหนังยากเหลือเกินที่จะคาดผิด ต่อให้ไม่รู้เรื่องมาก่อนก็พอจะคิดได้จากแนวทางและเนื้อหา แล้วเหตุการณ์ในเรื่องก็หาคำตอบได้ไม่ยาก ถ้าเป็นแฟนกีฬาว่ายน้ำหรือมีเวลาค้นวิกิพีเดีย ก็ยิ่งทำให้ภาพของการแสดง ที่เป็นเสน่ห์ เป็นแม่เหล็ก เป็นอาวุธหลัก ที่หนักหน่วงที่สุดของหนัง ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
เมื่อได้ชมจนถึงวินาทีสุดท้าย… สิ่งที่หนังนำเสนอได้อย่างน่าประทับใจ และซาบซึ้ง หรือมีความสำคัญที่สุด คือผลลัพธ์แห่งการกระทำของไนแอดหรือเปล่า?
คำตอบคือ “ไม่ใช่” สิ่งที่เกิดขึ้นและเป็นไปในระหว่างทางต่างหาก ที่ทำให้ผู้คนอิ่มความรู้สึกไปกับหนัง แล้วขณะที่คนดูได้รู้จักไนแอด ได้เห็นความพยายามของเธอ ได้รับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตผู้หญิงคนนี้ ตัวเธอก็ได้เรียนรู้ว่า สิ่งที่เธอทำแม้ดูเหมือนเป็นการทำงานเพียงลำพัง เป็นความฝันของเธอคนเดียว จริง ๆ แล้วเป็นการทำงานที่ต้องอาศัยผู้คนรอบข้างหลากหลายความสามารถ มาช่วยแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า วางแผน เตรียมการ ทุกอย่างให้ดีที่สุด ก่อนที่เธอจะโดดลงสู่กระแสน้ำ ซึ่งกว่าที่ไนแอดจะรู้ ก็เกือบจะสายเกินไปอยู่เหมือนกัน
หากกับอีกหลาย ๆ คน ในโลกแห่งความเป็นจริง มันก็ไม่ทันการณ์ หรืออาจไม่มีวันรับรู้เลย
ทั้ง ๆ ที่อาจเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้พวกเขาเดินทางไปไม่ถึงฝั่งฝัน หรือชีวิตยังขาดบางอย่างที่มาสูบลมจนหัวใจพองโต
แม้จะฝันเพียงลำพัง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีคนมาร่วมฝัน เบื้องหลังฝันที่เป็นจริงของใครบางคน ก็คือความฝันของอีกหลาย ๆ คนที่อยากให้ฝันของคน ๆ นั้นเป็นความจริง โดยที่ไม่ต้องแสดงตัว อวดอ้าง หรือประกาศให้โลกรู้ แค่ได้เห็น ได้ยื่นมือ ได้ส่งต่อความช่วยเหลือ ก็ทำให้ใจฟู พองโต เต้นได้อย่างมีความสุข เพียงเท่านั้นก็พอ สำหรับคนที่ขอเป็นแค่แบ็คกราวนด์ ลมใต้ปีก หรือกระแสน้ำที่ไหลไป อย่างไม่รู้เหน็ดรู้เหนื่อย
กำกับ: เอลิซาเบ็ธ ชัย วาซาน์เฮลยี, จิมมี ชิน บทภาพยนตร์: จูเลีย ค็อกซ์ จากหนังสือบันทึกความทรงจำ ‘Find a Way’ โดย ไดอะนา ไนแอด นักแสดง: แอนเน็ตต์ เบนนิง, โจดี ฟอสเทอร์, รีส์ ไอแฟนส์
โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ วิจารณ์-แนะนำ นิตยสารสีสัน ปีที่ 35 ฉบับที่ 2 มีนาคม 2567
ให้กำลังใจและสนับสนุนเราได้ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลข 100-2-10283-4 แล้วแจ้งมาที่กล่องข้อความของเพจ sadaos หรือที่อีเมล shopsadaos@gmail.com เพื่อรับของขวัญแทนน้ำใจ
ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์หรือกดติดตามเพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่
What is your reaction?
