ฟังไปแล้ว – Johnny Cash: Forever Words อัลบัมสดุดีตำนานของวงการเพลงอเมริกัน

นอกจากจะเป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียงโด่งดังแล้ว จอห์นนี แคช นักร้อง-นักแต่งเพลง, มือกีตาร์, นักแสดง และนักเขียน ยังได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในตำนานของวงการเพลงอเมริกัน ที่ผลงานของเขาส่งอิทธิพลมายังศิลปินรุ่นหลังๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของดนตรี ภาษา หรือว่ามุมมอง

ที่แรกเริ่มเดิมทีแคชได้รับการจดจำในฐานะนักดนตรีคันทรี แต่เขาก็ขยายขอบเขตการทำงานออกไปทั้งในเรื่องของดนตรีและซาวนด์ ไปถึงโลกของร็อคแอนด์โรลล์, ร็อคอะบิลลี, บลูส์, โฟล์ค และกอสเพล และทำให้เขาได้รับการยกย่องจารึกชื่อทั้งในหอประกาศเกียรติคุณดนตรีคันทรี, ร็อคแอนด์โรลล์ และกอสเพล ซึ่งเป็นสิ่งที่น้อยคนนักจะทำได้

แม้แคชจะเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2003 ด้วยวัย 71 ปี แต่บทเพลงของแคชก็ถูกศิลปินรุ่นหลังๆ นำมาร้องมาเล่นอยู่บ่อยครั้ง หนหลังสุดที่ได้ชมได้ฟังก็คือเจค บักก์ (Jake Bugg) ที่เอาเพลง “Folsom Prison Blues” ของแคชมาเล่นในคอนเสิร์ตที่บ้านเรา และกับอัลบัมชุดนี้ Forever Words ก็เป็นงานที่บรรดาศิลปินรุ่นหลังๆ และเพื่อนๆ ของแคช คริส คริสทอฟเฟอร์สัน (Kris Kristofferson) กับวิลลี เนลสัน (Willie Nelson) ที่เคยทำวง The Highwayman กับแคช, โรแซน แคช (Rosanne Cash) ลูกสาวของแคช, เอลวิส คอสเทลโล (Elvis Costello), Alison Krauss & Union Station หรือ คริส คอร์เนลล์ (Chris Cornell) ที่เสียชีวิตไปแล้ว นำเอาบทกวีและเนื้อเพลงที่แคชแต่งเอาไว้ มาใส่ดนตรีเป็นครั้งแรก รวมทั้งหมด 16 เพลง โดยออกตามหนังสือ Forever Words: The Unknown Poems ที่วางจำหน่ายในปี 2016 ซึ่งเป็นการตีพิมพ์งานเขียนของแคชที่ไม่เคยวางจำหน่ายมาก่อน โดยมีนักเขียนรางวัลพูลิตเซอร์ พอล มัลดูน (Paul Muldoon) เป็นบรรณาธิการ ขณะที่การบันทึกเสียงก็ทำกันที่ เดอะ แคช เคบิน สตูดิโอ ในเฮนเดอร์สันวิลล์, เทนเนสซี ภายใต้การดูแลของ จอห์น คาร์เตอร์ แคช (John Carter Cash) ลูกชายของแคช และสตีฟ เบอร์โควิทซ์ (Steve Berkowitz)

ซึ่งจากรายชื่อของศิลปินแต่ละคนนั้น ต่างก็ได้รับการยกย่องและยอมรับอย่างสูงในเรื่องเสียงร้องที่มีลายเซ็นชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น คริส คอร์เนลล์, จอห์น เมลเลนแคมป์ (John Mellencamp), จีวล์ (Jewel) รวมไปถึงวงดนตรีอย่าง The Jayhawks และไม่มีใครที่ทำให้ผิดหวังก็ว่าได้ ขณะที่ดนตรีนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นงานโฟล์ค-ร็อค, คันทรี-ร็อค รวมไปถึงร็อคแอนด์โรลล์ ที่ผสมผสานงานในแบบแคชและลักษณะเฉพาะตัวของศิลปินเข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน

เช่น “You Never Knew My Mind” แม้เพลงจะเป็นงานอะคูสติค บัลลาดในแบบของคอร์เนลล์ แต่ก็มีอารมณ์บางอย่างที่ทำให้นึกถึงแคชในตัว เช่นเดียวกับเพลงคันทรีหวานๆ “The Captain’s Daughter” จากอลิสัน เคราส์ แอนด์ ยูเนียน สเตชัน หรือเพลงโฟลค์เพราะๆ “Body on Body” ที่สวยซึ้งด้วยเสียงของจีวล์ รวมไปถึงเพลงบัลลาดในแบบสแตนดาร์ดจากเอลวิส คอสเทลโล “I’ll Still Love You” ซึ่งอาจจะเป็นจากคำร้อง หรือโครงสร้างของเพลงที่เรียบเรียง ไม่ว่าจะเป็น จังหวะ, ลักษณะของการร้อง ตลอดจนซาวนด์กีตาร์ หรือว่าเครื่องดนตรีที่ใช้

ที่ถือเป็นการแสดงความคารวะตำนานของวงการเพลงรายนี้ได้อย่างลงตัว

โดยเฉพาะการให้สองรุ่นใหญ่ที่เคยทำงานร่วมกับแคชในวงเดียวกันมาแล้ว อย่าง ทอฟเฟอร์สัน และเนลสัน ร่วมกันเปิดอัลบัมด้วย “Forever/I Still Miss Someone” บทกวีสั้นๆ ที่บ่งบอกถึงความสำคัญของแคช รวมไปถึงสิ่งที่เขาสร้างและคงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้เอาไว้ได้อย่างชัดเจน

“แต่ง You tell me that I must perish / Like the flowers that I cherish / Nothing remaining of my name / Nothing remembered of my fame / But the trees that I planted still are young / The songs that I sang will still be sung”

ที่ถือเป็นการให้เกียรติทั้งแคช และศิลปินรุ่นใหญ่ที่ทำงาน มีชื่อเสียง เติบโตมาด้วยกัน ที่งดงาม ไปพร้อมๆ กัน

โดย นพปฎล พลศิลป์ จากเรื่อง Johnny Cash: Forever Words อัลบัมสดุดีตำนานของวงการเพลงอเมริกัน คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ หนังสือพิมพ์ ไทยโพสท์ วันที่ 25 พฤษภาคม 2561

ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่