หนังสารคดีชีวิตคริส คอร์เนลล์ ที่สร้างโดยแบรด พิทท์

วงการภาพยนตร์และวงการเพลง มีความเกี่ยวพันกันในแบบที่แทบจะแยกกันไม่ออก อย่าง คนทำงาน ก็มีการสับเปลี่ยนกันไปมา ล่าสุดที่เห็นชัดๆ ก็คือ เลดี กากา ที่ข้ามมาเล่นหนัง A Star is Born และผู้กำกับนักแสดงนำชายของหนัง แบรดลีย์ คูเปอร์ ได้ทำเพลงซาวนด์แทร็ค และนี่ก็คือศิลปินอีกรายที่ชีวิตจะก้าวข้ามจากโลกของเสียงเพลง มาอยู่บนจอภาพยนตร์

แม้จะปราศจากลมหายใจไปแล้วก็ตาม

คริส คอร์เนลล์ เป็นที่รู้จักดีในฐานะนักร้องนำของวง Soundgarden และอยู่กับวงตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1984 จนแยกทางกันไปในปี 1997 จากนั้นก็ไปร่วมงานกับสมาชิกบางส่วนของ Rage Against the Machine ทำวง Audioslave ก่อนกลับมาร่วมงานกับซาวนด์การ์เดนอีกในปี 2011 และระหว่างที่กำลังออกทัวร์กับวง เขาก็จากไปในวันที่ 18 พฤษภาคม 2017 หลังจบการแสดงที่ดีทรอยต์ โดยถูกระบุว่าเป็นการฆ่าตัวตาย

คอร์เนลล์ได้รับรางวัลแกรมมีมาแล้ว 3 รางวัลจากการถูกเสนอชื่อเข้าชิงถึง 16 ครั้ง ตลอดชีวิตการทำงาน ได้แก่รางวัล การแสดงเพลงเมทัลยอดเยี่ยม จากเพลง “Spoonman”, การแสดงเพลงฮาร์ด ร็อคยอดเยี่ยมในเพลง “Black Hole Sun” ซึ่งได้รับในนามวง Soundgarden และอีกครั้งในฐานะศิลปินเดี่ยว จากสาขาการแสดงเพลงร็อคยอดเยี่ยม ในเพลง “When Bad Does Good” ที่ในโลกภาพยนตร์ คอร์เนลล์ก็เคยแสดงหนังเรื่อง Singles ของผู้กำกับคาเมรอน โครว์ มาแล้ว

แต่กับการขึ้นจอหลังการจากไปของเขา จะได้แบรด พิทท์มานั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการสร้าง มีปีเตอร์ เบิร์ก ผู้กำกับ Mile 22, Lone Survivor, Deepwater Horizon มากำกับ โดยเป็นหนังสารคดีว่าด้วยชีวิตของคอร์เนลล์ ซึ่งตัวแทนของเขาออกมายืนยันแล้วว่า อยู่ในระหว่างการทำงาน แต่ไม่มีการเผยรายละเอียดอื่นๆ ออกมา และวิคกี คอร์เนลล์ภรรยาม่ายของคอร์เนลล์ก็จะทำหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างร่วมกับพิทท์และบริษัท ฟิล์ม 45 ของเบิร์กอีกด้วย

หลายๆ คนอาจคุ้นกับเบิร์ก ในฐานะผู้กำกับหนังแอ็คชันทุนสูง แต่เขาก็ผ่านการทำหนังสารคดีมาเช่นกัน โดยเขาเพิ่งกำกับสารคดีซีรีส์เรื่อง 30 for 30 ให้กับทางสถานีอีเอสพีเอ็น และยังเกี่ยวข้องกับการทำหนังสารคดีเรื่องใหม่ของริห์อันนา ซึ่งเคยแสดงหนังเรื่อง Battleship ของเขามาแล้วอีกด้วย

ส่วนพิทท์กับคริส คอร์เนลล์ เป็นเพื่อนกันมานานกว่าทศวรรษแล้ว และเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ในคอนเสิร์ต I Am the Highway: A Tribute to Chris Cornell ที่เดอะ ฟอรัม ในลอส แองเจลีส ซึ่งวิคกีกับเพื่อนๆ ของคอร์เนลล์ เช่น สโตน กอสสาร์ดและเจฟฟ์ อเมนท์ แห่งวง Pearl Jam ร่วมกันจัด มีศิลปินรับเชิญมากมาย อาทิ ไมลีย์ ไซรัส, วง Foo Fighters, แบรนดี คาร์ไลล์, คริส สเตเปิลตัน, ฟิโอนา แอปเปิล, จอช ฮอมม์ และวง Metallica ขึ้นแสดง พิทท์นอกจากไปร่วมงานแล้ว ยังขึ้นกล่าวแนะนำโทนี ลูกสาวของคอร์เนลล์วัย 14 ปีบนเวทีอีกด้วย

ในปี 2004 พิทท์เคยให้สัมภาษณ์ว่า “ผมเป็นแฟนของคริส คอร์เนลล์ เสพติดทุกอย่างที่เขาทำ” และหลังแยกทางกับแองเจลินา โจลี พิทท์ปรากฏตัวครั้งแรกต่อสาธารณะด้วยการกล่าวแนะนำคอร์เนลล์ในคอนเสิร์ตการกุศล ROCK4EB! ที่มาลิบู, แคลิฟอร์เนีย ร่วมกับสติง “ผมได้แนะนำเพื่อนที่ดี ที่ดีมากๆ ของผม” พิทท์พูดถึงคอร์เนลล์ที่จะร่วมเล่น “Every Breath You Take” เพลงฮิตจากปี 1983 ของ The Police และ “Black Hole Sun” เพลงฮิตในปี 1994 ของซาวนด์การ์เดนในคอนเสิร์ตนี้

คอร์เนลล์เองก็ไปร่วมงานของพิทท์เช่นกัน อย่าง รอบปฐมทัศน์หนัง Moneyball ที่เทศกาลภาพยนตร์โทรอนโทเมื่อปี 2011 ยิ่งไปกว่านั้นพิทท์กับโจลีพร้อมซาฮารา-ลูกสาวก็เคยไปร่วมงานวันเกิดอายุครบ 6 ปีของโทนี เมื่อปี 2010 ที่ร้านอเมริกัน เกิร์ล และถ้าย้อนไปในยุค 90 ก็มีบางอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่แล้ว เมื่อเพลง “Outshined” ซาวนด์การ์เดน ถูกใช้ในฉากที่พิทท์ปรากฏตัวของหนังเรื่อง True Romance

นอกจากจะนั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการสร้างให้กับหนังสารคดีของสามีที่ยังไม่มีชื่อเรื่องนี้แล้ว วิคกียังรับหน้าที่สร้างสรรค์รูปปั้นของร็อคเกอร์ที่กลายเป็นตำนานไปแล้วรายนี้ ที่ซีแอตเติลบ้านเกิดของพวกเขาอีกด้วย

โดย นพปฎล พลศิลป์ เรื่อง หนังสารคดีชีวิตคริส คอร์เนลล์ ที่สร้างโดยแบรด พิทท์ คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ หนังสือพิมพ์ไทยโพสท์ วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2562