รู้กันโดยทั่วไปว่า โรบิน วิลเลียมส์ เป็นนักแสดงฝีมือดีคนหนึ่ง แต่เขายังมีความสามารถในเรื่องงานเพลง รวมไปถึงการแสดงเดี่ยวไมโครโฟนด้วย โดยเดือนกันยายน 1979 วิลเลียมส์ มีอัลบั้มชุด Reality…What a Concept ติดท็อปเทนของบิลล์ลอร์ด รวมทั้งทำให้เขาได้รางวัลแกรมมีสาขางานเบาสมองยอดเยี่ยม และเข้าชิงรางวัลศิลปินหน้าใหม่แห่งปี แต่แพ้ให้กับริคกี ลี โจนส์
วิลเลียมส์ได้รางวัลแกรมมีอีก 4 หน โดย 2 ครั้งจากงานที่เขามีส่วนร่วม ในปี 1988 กับอัลบั้มเพลงประกอบหนัง Good Morning, Vietnam ในสาขางานเบาสมองยอดเยี่ยม และ Pecos Bill อัลบั้มที่เขาทำกับราย คูเดอร์ ได้รางวัล งานสำหรับเด็กยอดเยี่ยม ส่วนที่เหลือเป็นบันทึกการแสดงสด A Night at the Met ได้รางวัลงานเบาสมองยอดเยี่ยมในปี 1987 และ Robin Williams — Live 2002 ได้รางวัลอัลบั้มพูดตลกยอดเยี่ยมในปี 2002
ปี 1980 เพลง I Yam What I Yam ที่เขาร้องในหนัง Popeye ไปได้ถึงอันดับ 104 เกือบติดชาร์ทเพลงฮิตบิลล์บอร์ด และได้เล่นมิวสิค วิดีโอเพลง Don’t Worry Be Happy ของบ็อบบี แม็คเฟอร์ริน ซึ่งขึ้นอันดับ 1 ได้เมื่อเดือนกันยายน 1988 ก่อนจะร่วมงานกับแม็คเฟอร์รินอีกหน ด้วยการร้องเพลง Come Together ของเดอะ บีเทิลส์ ในอัลบั้มพิเศษของจอร์จ มาร์ติน In My Life เมื่อปี 1998
วิลเลียมส์ได้รับการยกย่องมากมายจากคนในวงการดนตรี หลังการจากไป ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้นก็คือ ออซซี ออสบอร์น ที่วิลเลียมส์ได้ทำสิ่งสำคัญ จนกลายเป็นความชื่นชมที่ไม่วันลบเลือนสำหรับครอบครัวออสบอร์น หลังชารอนถูกตรวจพบว่าเป็นมะเร็งในปี 2002 “ผมเป็นหนี้โรบิน วิลเลียมส์ไปตลอดกาล” ออซซีเผย “ตอนชารอน (ออสบอร์น – ภรรยาของออซซี ที่อยู่ในภาพกับโรบิน) เป็นมะเร็งสำไส้ใหญ่ ผมได้ดูหนังเรื่อง Patch Adams มันเป็นเรื่องของผู้ชายคนหนึ่ง ที่เป็นบุรุษพยาบาล หรืออะไรบางอย่างในโรงพยาบาล แล้วไปดูแลพวกคนป่วยร้ายแรง ผมคิด ‘เป็นอะไรที่เยี่ยมยอดมาก แล้วโรบิน วิลเลียมส์ ก็ช่างเป็นคนที่สนุกจริงๆ’ ผมให้ตัวแทนติดต่อกับเขา ขอความกรุณาจากเขาให้มาหาและพูดคุยกับภรรยาของผมได้ไหม ซึ่งเขาทำ มันน่ารักมากๆ”
ในปี 2002 ชารอนเล่าถึงเหตุการณ์นี้ว่า “เขาเข้ามาตอนฉันนอนอยู่บนเตียง สภาพครึ่งหลับครึ่งตื่น มึนๆ กับฤทธิ์ยาที่หมอให้กิน แล้วก็มีเสียงเคาะประตู ฉันบอกว่า ‘เข้ามาเลย’ โรบิน วิลเลียมส์ก็มายืนตรงหน้าฉัน!” เธอเล่า “ฉันคิดว่า มันต้องเป็นความฝันแน่ๆ จริงๆ แล้วฉันคิดว่าเป็นภาพหลอนจากยาที่ฉันกินเข้าไปด้วยซ้ำ! ฉันไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เลยโพล่งไปว่า ‘ออซซีรู้ไหมว่าคุณมาอยู่ที่นี่?’ จากนั้นโรบินก็ขึ้นมาอยู่บนเตียงกับฉัน แล้วพูดว่า ‘จุ๊ๆๆ ไม่ เขาไม่รู้ แล้วอย่าบอกเขาล่ะ’ นั่นทำให้ฉันอดหัวเราะไม่ได้ ฉันอยู่บนเตียงกับโรบิน วิลเลียมส์ แล้วก็เริ่มหัวเราะเฮฮาอย่างบ้าคลั่ง เขาโอบกอดฉันด้วยความรักอยู่ถึง 2 ชั่วโมง”
เหตุการณ์นี้กลายมาเป็นความทรงจำที่มีค่าของชารอน ซึ่งทวีตข้อความว่า “ครอบครัวออสบอร์นมีความเสียใจอย่างที่สุดกับการจากไปของผู้ชายที่เปี่ยมพรสวรรค์, สุภาพ และมีความสนุกสนานในตัว” เธอยังพูดถึงวิลเลียมส์อีกว่า “เป็นคนน่ารัก เป็นคนที่มีแต่การให้ เขาทำอะไรมากมายเพื่อฉัน” และออซซีก็เสริมว่า “ผมรักผู้ชายคนนี้ไปชั่วนิจนิรันดร์”
นี่คืออีกหนึ่งความทรงจำ ที่ไม่ได้มีวันลบเลือนเฉพาะครอบครัวออสบอร์นแน่ๆ
จากเรื่อง รางวัลของคนดนตรีของโรบิน วิลเลียมส์ และ หนี้ชีวิตของเขากับออซซี ออสบอร์น โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ หนังสือพิมพ์ไทยโพสท์ วันที่ 19 สิงหาคม 2557