By Sadaos
IN THE LONELY HOUR: DROWNING SHADOWS EDITION / Sam Smith
[Capitol Records/ Universal Music]
เพียงแค่อัลบั้มแรก In the Lonely Hour แซม สมิธก็กลายเป็นหนึ่งในศิลปินหน้าใหม่ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดตั้งแต่ออกงานชุดแรก รวมไปถึงเป็นซูเปอร์สตาร์ของวงการเพลงยุคนี้ไปในทันที เมื่อกลายเป็นงานขายดีทั่วโลกและส่งให้แซม สมิธไปคว้ารางวัลต่างๆ มากมาย
ความโดดเด่นของ In the Lonely Hour คือเสียงร้องของแซมที่ฟังเศร้า ถึงอารมณ์ ดนตรีที่สอดรับเข้ากับเสียงร้องของเขาอย่างลงตัว และแน่นอนเนื้อร้องที่ละเมียดละไม บาดลึก การเรียบเรียงที่งดงาม และส่งศักยภาพของศิลปินอย่างเต็มที่
ด้วยความสำเร็จที่ยาวนาน กอรปกับได้ร้องเพลงนำให้หนังบอนด์ Spectre ทางต้นสังกัดเลยจัดอัลบั้ม In the Lonely Hour ฉบับ Drowning Shadows Edition ออกมา โดยมีซีดีสองแผ่น แผ่นแรกจะเป็นอัลบั้มแบบดีลักซ์ เอดิชัน ที่เพิ่มเพลงจากฉบับปกติอีก 4 เพลง คือ Latch เพลงซิงเกิลของ Disclosure แต่เป็นฉบับอะคูสติค, เพลงอันดับ 1 ในอังกฤษของ Naughty Boy – La La La โดยทั้งสองเพลงเป็นเสียงร้องนำของสมิธ แล้วก็มีเพลง Restart และ Make It To Me ส่วนแผ่นที่สองจะมีเพลงทั้งหมดเก้าเพลง ซึ่งไม่เคยอยูในอัลบั้มไหนมาก่อนอย่าง Drowning Shadows, Nirvana, เพลงเก่าเอามาร้องใหม่ Love Is a Losing Game ของเอมี ไวน์เฮาส์ กับ How Will I Know ของวิทนีย์ ฮุสตันที่สมิธร้องได้อย่างจับใจ, Omen เพลงของดิสโคลเชอร์ที่สมิธไปร้องนำ แต่เป็นฉบับอะคูสติค, Latch เพลงของดิสโคลเชอร์เช่นกัน แต่เป็นเวอร์ชันแสดงสด และเพลงของสมิธ ที่มีแขกรับเชิญเทพๆ มาร่วมงานคือ Stay with Me ที่ได้แมรี เจ ไบลจ์มาร่วมร้อง, I’m Not the Only One เป็นอเอสเอพี ร็อคกี และปิดท้ายด้วยจอห์น เลเจนด์กับ Lay Me Down
ซึ่งแต่ละเพลง นอกจากจะไม่ใช่งานแถม แต่ยังเป็นงานที่ทำอย่างประณีต งดงาม และต่อให้มี In the Lonely Hour ฉบับปกติ หรือฉบับดีลักซ์แล้ว กับเพลงที่มีในแผ่นที่สอง ก็ยังถือว่า คุ้มค่ากับการเป็นเจ้าของอัลบั้มในฉบับ Drowning Sahdows Edition อยู่ดี
โดย นพปฎล พลศิลป์ จากคอลัมน์ สะกิดร่องเสียง นิตยสารเอนเตอร์เทน ฉบับที่ 1196 ปักษ์หลังพฤศจิกายน 2558
ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านงานวิจารณ์หนัง และเพลง แบบนี้ ได้ด้วยการกดไลค์ Like เพจสะเด่าส์กันไว้ก่อน ได้ที่นี่
What is your reaction?
