Music ReviewREVIEW

ฟังไปแล้ว – SONGS OF EXPERIENCE งานดนตรีอยู่ตัว แต่ความคิดพลุ่งพล่านจาก U2

SONGS OF EXPERIENCE / U2
[Island Records]

จาก Songs of Innocence อัลบัมที่ยูทูว์เอาความบริสุทธิ์ของตัวเองมาขาย ในวันที่พวกเขาไม่น่าจะเหลือความบริสุทธิ์ให้ได้สัมผัสมากสักเท่าไหร่ อันเนื่องจากวัยและการใช้ชีวิตผ่านโลกมากมายจนมาถึงอัลบัมที่ 13 งานที่กลายเป็นของแจกฟรีผ่านไอทูนส์ สโตร์ส โดยชื่ออัลบัมนั้นมีที่มาจากชื่อหนังสือของวิลเลียม เบลค Songs of Innocence กวีเจ้าของแนวคิดที่ว่า คนเราเมื่อเกิดมานั้น ล้วนบริสุทธิ์ ไม่ได้มีบาปติดตัวมาตั้งแต่เกิด ขณะที่ตัวอัลบัมเองก็เล่าถึงช่วงเวลาอันเยาว์วัยของสมาชิกของวง ก่อนที่โลกจะทำให้พวกเขาเป็นอย่างที่เป็นในทุกวันนี้

นอกจากหนังสือเล่มที่ว่า เบลคยังมีหนังสือคู่กันชื่อว่า Songs of Experience อีกเล่ม ซึ่งว่าด้วยสิ่งที่โลกกระทำต่อวัยเยาว์ ที่ถูกเรียกว่าประสบการณ์ จนความไร้เดียงสาค่อยๆ สูญไปอย่างช้าๆ จากความหวาดกลัวและความอดกลั้น จากสังคมและการเมือง รวมไปถึงกฏเกณฑ์มากมายที่ถูกนำมาบังคับใช้กับชีวิต ไม่ว่าจะเป็นโดยผู้นำทางศาสนา หรือผู้นำทางการเมือง 
 เมื่อหนังสือ Songs of Innocence ยังมี Songs of Experience เป็นคู่ได้ แล้วทำไมยูทูว์จะทำอัลบัมของพวกเขาให้ออกมาแบบเดียวกันไม่ได้ และหากอัลบัมแรกนั้นว่าถึงวัยเยาว์ที่ผ่านไป เช่นเดียวกับหนังสือ อัลบัมที่สองก็ไม่ต่างกัน เมื่อพูดถึงสิ่งต่างๆ ที่ทำให้ความเป็นเด็กและเดียงสาของผู้คนสูญหาย

ที่เนื้องานไม่ได้ว่าด้วยเรื่องราวที่มีพวกเขาเองเป็นศูนย์กลางเหมือนอัลบัมก่อนหน้า หากเป็นสิ่งที่ยูทูว์อยากจะบอกเล่าถึงสิ่งต่างๆ รอบตัวที่พวกเขาพบ เรียนรู้ ที่หมายถึงประสบการณ์ที่พวกเขาได้เจอ ไม่ใช่เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับพวกเขา

ที่เริ่มต้นด้วย ความรัก สิ่งที่สำคัญที่เราทุกคนควรเก็บไว้ แต่ท้ายที่สุดกลับเป็นสิ่งที่เราต่างทิ้งหายไป ใน Love is All We Have Left, ใครบางคนที่เป็นสิ่งมีค่าที่สุดในชีวิต ใน You’re the Best Thing About Me ที่ตีความหมายได้หลากหลาย ทั้งความรักแบบหนุ่ม-สาว หรือแบบพ่อ-แม่กับลูกๆ หากก็ฟังอบอุ่น และรู้สึกถึงการเสียสละไม่แพ้กัน, การเดินจากสิ่งที่ตัวเองเคยเป็น เพื่อสู้หรือเอาชนะบางสิ่งบางอย่างที่เลวร้าย จาก Get Out of Your Own Way, ขณะที่ American Soul ก็ว่าด้วยเรื่องการเมือง เรื่องของผู้ลี้ภัย เนื้อหากระตุ้นจิตวิญญาณอเมริกันที่เคยตอบรับผู้โยกย้ายถิ่นฐาน ให้เป็นเหมือนที่เคยเป็นอีกครั้งในยุคที่เรื่องชาตินิยมถูกปลุกขึ้นมา, กับ Summer of Love และ Red Flag Days ต่างก็พูดถึงการเดินทางไปหาสถานที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ โดยไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างที่คิดไหม หากอย่างน้อยก็มี ‘ความหวัง’ มากกว่า

ส่วน Blackout ก็พาให้คิดถึงสภาวะทางการเมืองอเมริกันยุคปัจจุบันที่ดูมืดมิด ทางออกเดียวที่ทำได้ก็คือ ออกไปเผชิญหน้า เรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน แล้วจากนั้นเราเองนั่นละคือแสงสว่างที่จะขจัดความมืดให้ออกไป ซึ่งมีนัยยะที่ใกล้ๆ กับ Love is Bigger Than Anything in its Way งานเพลงปลุกเร้าให้บรรดาคนรุ่นใหม่ วัยเยาว์ลุกขึ้นมาเขียนและร้องบทเพลงของตัวเอง

กับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับโบโนก็ถูกแปรมาเป็น The Little Things Give You Away เรื่องจุดจบของชีวิต การมีอยู่และตัวตน ประสบการณ์หลังความตาย ที่เชื่อมโยงเข้ากับ Lights of Home แสงสว่างจากบ้านที่ใครๆ มองหาและอยากเห็น ไม่ใช่แสงสว่างจากอุโมงค์ที่ไหนหลังหยุดหายใจ

ตัวอัลบัมปิดลงด้วย 13 (There Is A Light) ที่มาพร้อมกับความหวัง แม้จะเป็นในยามที่มองไม่เห็นแสง แต่ความมืดอยู่รายรอบแสงสว่างเสมอ หากเจอ-เห็นอย่าปล่อยให้เลือนหายไป ซึ่งรับกับเพลงเปิดอัลบัม Love is All We Have Left พอดิบพอดี

ท้ายที่สุดแล้ว ความรักหรือแสงสว่างก็ไม่ต่างกัน เพราะเรามักจะหลงลืมเลือนไปเสมอๆ

หากไม่นับงานที่ว่าด้วยชีวิตหลังความตาย ประสบการณ์อีกโลกที่โบโนรู้สึกว่าตัวเอง ‘พบ’ Songs of Experience พูดถึงโลกในภาพรวมอย่างชัดเจน แต่ถึงกระนั้นเพลงที่เหมือนงานส่วนตัวของโบโน ก็คือประสบการณ์ร่วมที่ใครหลายๆ คนมีคล้ายกัน แสงสว่างที่มองเห็นหลังจบชีวิต ความตายที่มาถึงได้ถึงเมื่อโดยไม่มีใครรู้

ที่เรื่องราวทั้งหมดในเพลงล้วนทำให้งานชุดนี้เป็น Songs of Experience อย่างแท้จริง

ตัวดนตรีกับการเป็นอัลบัมหมายเลข 14 และเส้นทางดนตรีที่ยาวไกลเป็น 20-30 ปี ยูทูว์ผ่านการทำงาน ผ่านการทดลองมาหลากหลายรูปแบบ งานชุดนี้ก็ไม่ไกลไปจากงานชุดที่แล้ว ไม่ต่างไปจากงานรวมแนวทางดนตรีที่ยูทูว์เคยทำ มีทั้งเพลงปลุกเร้าจิตใจในอารมณ์แบบ Pride (In the Name of Love) ใน Love is Bigger Than Anything in its Way ดนตรีที่หวือหวามีทางดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ปนอย่างใน Zooropa จาก Blackout ส่วน You’re the Best Thing About Me ไม่ต้องไปหาไกลๆ เพราะนี่ก็คืองานที่ให้อารมณ์ไม่ต่างไปจาก Beautiful Day

คงไม่ง่ายที่จะหาความรู้สึก สด ใหม่ กับเสียงดนตรี ซาวนด์ที่ได้ยิน ใน Songs of Experience แม้แต่ละเพลงที่รวมกันเป็นงานชุดนี้ จะไม่มีเพลงที่ย่ำแย่หรือเหยาะแหยะ หลายๆ เพลงเป็นงานร็อคเต็มไปด้วยเซนส์ป็อปที่น่าสนใจซ้ำ โดยเฉพาะงานที่วงทำกับไรอัน เท็ดเดอร์ ซึ่งเกือบๆ ยกอัลบัม มาแบบงานพาณิชย์ที่ดี แต่เพราะความคุ้นกลายเป็นความเคยชิน เลยทำให้พลังหรือความกระฉับกระเฉง (ถ้ามี) ลดทอนไปเยอะ หากอย่างน้อยก็ยังพอรับใช้ความแข็งแรงของเนื้อหาได้

และก็ต้องยอมรับว่า นี่คืออัลบัมที่คอนเส็ปท์นั้นแข็งแรง สืบเนื่องจากชุดที่แล้วได้ เป็นจิ๊กซอว์ที่ต่อเข้ากันพอดี ที่ไม่ได้แค่เป็นไปตามหนังสือของเบลคเท่านั้น แต่กับทั้งสองอัลบัมเอง ภาพปกที่ต่างก็ใช้ทายาทของคนในวงเป็นคนนำเสนอ นอกจากจะเชื่อมกันแล้ว แต่ละชุดก็ลงตัวกับสิ่งที่หนังสือและอัลบัมถ่ายทอดออกมา

นี่คืองานที่ภาคดนตรีอยู่ในระดับธรรมดา หรือเอาเป็นว่า ‘อยู่ตัว’ ของยูทูว์ แต่กับไอเดียและความคิดต่างๆ ที่ถูกเล่าบอกออกมา ถือว่าพลุ่งพล่านสูงปรี๊ดกว่ากันเยอะเลย

โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ วิจารณ์-แนะนำ นิตยสารสีสัน ปีที่ 29 ฉบับที่ 4 ปี 2561

[one_half][/one_half][one_half_last][/one_half_last] 

What is your reaction?

Excited
0
Happy
0
In Love
0
Not Sure
0
Silly
0
Sadaos
พบข่าวสารจากวงการหนัง-เพลง ภาพสวยของดาราสาว, วิจารณ์-แนะนำ งานเพลง, ภาพยนตร์ และรับสั่งซื้อ CD/ DVD ทั้งในและต่างประเทศ. Sadaos Is entertainment news page and online shop for people who love movie and music. We sell many entertainment items like used and new DVD, CD, postcards, accessory, souvenirs.

You may also like

More in:Music Review

Comments are closed.